เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสครบรอบ 56 ปีของภาควิชาประวัติศาสตร์ ซึ่งกิจกรรมทีที่มีความหมายและเป็นสิริมงคลสำหรับนิสิตและคณาจารย์ของภาควิชา โดยในช่วงเช้าได้มีการจัดพิธีสงฆ์เจริญ มีการเจริญพระพุทธมนต์และใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง ให้กับพระภิกษุสงฆ์จำนวน 9 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคลและสร้างความสุขใจให้กับผู้เข้าร่วมทุกคน
หลังจากพิธีสงฆ์ ได้มีกิจกรรมฝากตัวเป็นศิษย์และรับขวัญนิสิตใหม่ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความประทับใจและเป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างนิสิตใหม่และนิสิตปัจจุบัน รวมถึงคณาจารย์ในภาควิชา กิจกรรมนี้เป็นการต้อนรับนิสิตใหม่อย่างอบอุ่นและแสดงให้เห็นถึงความเป็นครอบครัวในมหาวิทยาลัยนเรศวร รวมถึงกิจกรรมพูดคุยและให้แนวทางในการศึกษาด้านประวัติศาสตร์โดยคณจารย์จากภาควิชาประวัติศาสตร์ และกิจกรรมเขียนความรู้สึกหรือแรงบันดาลใจในการเรียนประวัติศาสตร์ใส่ลงในกระดาษ Post-It เพื่อใช้เป็นเครื่องมือการผลักดันตนเองให้ประสบความสำเร็จในการเรียน ตลอดจนหน้าที่การงานต่อไปในอนาคต
ในช่วงบ่าย เป็นกิจกรรมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งเป็นโอกาสให้นิสิตได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเข้าร่วมสงครามของไทย การแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในสงคราม และการศึกษาประวัติศาสตร์การทหารของไทย นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยในอดีต ผ่านการเรียนรู้จากสถานที่จริง การหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และการเปรียบเทียบเชื่อมโยงต่างๆ
ซึ่งการเยี่ยมชมสถานที่จริงเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากต่อการเรียนด้านประวัติศาสตร์ เนื่องจากนิสิตสามารถเห็นภาพที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมของเหตุการณ์และสิ่งของในอดีต การได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมจริงและสิ่งของจริงช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในประวัติศาสตร์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการฝึกทักษะในการสืบค้นและวิเคราะห์หลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยนิสิตสามารถนำข้อมูลและประสบการณ์จากการเยี่ยมชมมาใช้ในการศึกษาค้นคว้าและการเขียนงานวิจัย ซึ่งจะช่วยพัฒนาความสามารถทางวิชาการและเสริมสร้างความรู้ในด้านประวัติศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดกิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจในประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นการสร้างความสามัคคีและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนิสิตและคณาจารย์ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาการศึกษาและการวิจัยในภาควิชาประวัติศาสตร์ต่อไป