ใต้ร่มราชพฤกษ์:
ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการบรรยายพิเศษสำหรับนิสิตปริญญาตรี เรื่อง “การจัดการวาระสุดท้ายของชีวิตจากมุมมองด้านสาธารณสุขศาสตร์ไทยในทศวรรษ 2020” โดยมี ดร.อนงศ์ หาญสกุล จากภาควิชาสาธารณสุขศาสตร์ คณะพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เป็นวิทยากร ระหว่างวันที่ 30 – 31 กรกฎาคม 2567 ณ ห้อง QS 2109 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ มหาวิทยาลัยนเรศวร

โดยการบรรยายนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 834373 ประวัติศาสตร์ความตาย (Death History) สำหรับนิสิตชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาประวัติศาสตร์ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความตาย เข้าใจความหมาย ความเชื่อ และวัฒนธรรมที่สัมพันธ์กับความตายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับการจัดการความตายในมุมมองของสาธารณสุขศาสตร์ไทยในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ดร.อนงศ์ ได้อธิบายถึงความหมายและความสำคัญของสถานชีวาภิบาลในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย โดยเน้นการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care) ซึ่งช่วยลดความทุกข์ทรมานและให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงเวลาสุดท้าย การเข้าใจเรื่องสัจจธรรมของชีวิตและการยอมรับความตายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยจากไปอย่างสงบและมีศักดิ์ศรี
โดยการบรรยายนี้มีความสำคัญต่อการเรียนประวัติศาสตร์อย่างมาก เนื่องจากนิสิตจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการที่สังคมและวัฒนธรรมต่างๆ มองเห็นและจัดการกับความตาย ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการศึกษาและเข้าใจประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ การศึกษาว่าผู้คนในอดีตและปัจจุบันจัดการกับความตายอย่างไร ช่วยให้นิสิตสามารถเปรียบเทียบและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นตลอดเวลา การเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการความตายในมุมมองของสาธารณสุขศาสตร์ยังช่วยให้นิสิตสามารถเข้าใจบริบททางสังคมและการเมืองที่มีผลต่อการดูแลสุขภาพและชีวิตของคนในยุคต่างๆ

ประโยชน์ที่นิสิตจะได้รับจากการบรรยายพิเศษและการเรียนในรายวิชานี้มีหลายด้าน เช่น ความเข้าใจในความตายและการจัดการกับความตาย การดูแลแบบประคับประคอง และการวางแผนและจัดการวาระสุดท้ายของชีวิต ความรู้และทักษะเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อการศึกษาประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนวิชาอื่นๆ และในการทำงานในอนาคตได้ เช่น การทำงานในวงการสาธารณสุข การดูแลผู้ป่วย การศึกษาวิจัยทางประวัติศาสตร์ หรือการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย นอกจากนี้ การเรียนรู้เรื่องความตายและการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายยังช่วยให้นิสิตมีความพร้อมทางอารมณ์และจิตใจในการเผชิญหน้ากับการสูญเสีย ซึ่งเป็นทักษะที่มีคุณค่าในชีวิตประจำวัน
การบรรยายพิเศษครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีในการเปิดมุมมองใหม่ๆ และเสริมสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการจัดการความตายในสังคมไทยในทศวรรษ 2020 ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าสำหรับนิสิตทุกคน