ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ในร่มเงาและลำเนาป่าเขตร้อน: บริติชอินเดียในฐานะผู้ส่งทอดความรู้วิทยาศาสตร์ธรรมชาติสมัยใหม่” โดย ดร.พัชรวิรัล เจริญพัชรพร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นการพูดถึงความประวัติศาสตร์และความสำคัญของการรักษาระบบนิเวศและให้ประชาชนมีส่วนร่วมจัดการป่าในบริติชอินเดีย หรือ บริติชราช (British Raj) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สหราชอาณาจักรปกครองอนุทวีปอินเดียระหว่างปี 1858 ถึง 1947 โดยเกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ธรรมชาติอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในด้านการจัดการป่าไม้และการพัฒนาอุตสาหกรรมป่าไม้ ความรู้และแนวทางที่พัฒนาขึ้นในอินเดียภายใต้การปกครองของอังกฤษได้รับการถ่ายทอดไปยังหลายประเทศในภูมิภาค รวมถึงประเทศไทย ซึ่งมีการนำความรู้เหล่านี้มาประยุกต์ใช้ในหลายแง่มุม
หนึ่งในผลงานที่สำคัญของยุคบริติชอินเดียคือการจัดตั้งสถาบันการศึกษาด้านป่าไม้และการวิจัย เช่น Forest Research Institute (FRI) ในเมืองเดห์ราดูน และ Indira Gandhi National Forest Academy (IGNFA) สถาบันเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน โดยไม่เพียงแต่เน้นการอนุรักษ์ป่าไม้ แต่ยังครอบคลุมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมป่าไม้ที่มีความรับผิดชอบ การผลิตไม้ซุง ไม้กระดาษ และผลิตภัณฑ์จากป่าอื่น ๆ เช่น พืชสมุนไพรและน้ำมันหอมระเหย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจในยุคนั้น
การจัดการป่าไม้ในบริติชอินเดียได้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการดูแลและการใช้ทรัพยากรป่าไม้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน แนวคิดเรื่องการฟื้นฟูป่า การปลูกป่าใหม่ และการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพถูกพัฒนาขึ้นและนำมาใช้ในหลายส่วนของอินเดีย แนวทางเหล่านี้ยังได้รับการส่งต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ที่มีสภาพภูมิศาสตร์และทรัพยากรคล้ายคลึงกัน รวมถึง ประเทศไทย ซึ่งเริ่มมีการจัดการป่าไม้และพัฒนาอุตสาหกรรมป่าไม้ในลักษณะที่คล้ายคลึงกันในยุคต่อมา
สำหรับในประเทศไทย ในปัจจุบันการจัดการทรัพยากรป่าไม้และการพัฒนาอุตสาหกรรมป่าไม้ได้รับการสนับสนุนโดยสถาบันการศึกษาชั้นนำ เช่น คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้และพัฒนาการวิจัยเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและอินเดียในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการป่าไม้สามารถเสริมสร้างศักยภาพของทั้งสองประเทศในการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การนำแนวทางการศึกษาและการจัดการป่าไม้จากอินเดียมาปรับใช้ในประเทศไทย สามารถช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไทยในการจัดการป่าไม้และการพัฒนาอุตสาหกรรมป่าไม้ที่ยั่งยืน โดยอาจเป็นการร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในประเทศไทย การฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่อเพิ่มพูนความรู้ด้านการจัดการป่าไม้ และการพัฒนาโมเดลการมีส่วนร่วมของชุมชนที่ประสบความสำเร็จในอินเดียให้เหมาะสมกับบริบทของไทย
ในมิติที่กว้างขึ้น ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและการจัดการทรัพยากรที่ได้รับการพัฒนาในบริติชอินเดีย ไม่เพียงแต่มีอิทธิพลต่อการจัดการป่าไม้ในอินเดียและประเทศไทย แต่ยังเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการพัฒนานโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย การสานต่อมรดกทางวิทยาศาสตร์ธรรมชาติเหล่านี้ โดยผ่านการศึกษา การวิจัย และความร่วมมือระหว่างประเทศ จะเป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาอุตสาหกรรมป่าไม้อย่างยั่งยืนในอนาคต
ทั้งนี้การบรรยายดังกล่าวจัดขึ้นในวันศุกร์ ที่ 23 สังหาคม 2567 เวลา 13.00-15.00 น.ที่ผ่านมา ณ ห้องปราบไตรจักร 2-309 อาคารปราบไตรจักร 2 มหาวิทยาลัยนเรศวร